การออกแบบและเทคโนโลยี ม.3

เรื่องที่ 1 ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น

เคยสงสัยไหมว่า สมาร์ทโฟนเครื่องเก่งในมือเรา หรือรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำที่วิ่งบนถนน เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? มันไม่ได้เกิดขึ้นจากเวทมนตร์ แต่เกิดจากการรวมพลังของ “ความรู้” หลากหลายสาขาเข้าด้วยกัน

1. เทคโนโลยีคืออะไรกันแน่?

ก่อนจะไปดูความสัมพันธ์ เรามาทบทวนกันก่อนว่า เทคโนโลยี (Technology) คืออะไร ง่ายที่สุดเลย เทคโนโลยีคือ “สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหา หรือสนองความต้องการ”

  • อาจจะเป็น ชิ้นงาน (เช่น ปากกา, คอมพิวเตอร์, ยารักษาโรค)
  • หรืออาจจะเป็น วิธีการ (เช่น วิธีการถนอมอาหาร, ระบบน้ำหยดในการเกษตร)

2. คู่หูสุดแกร่ง: วิทยาศาสตร์ และ คณิตศาสตร์

เทคโนโลยีส่วนใหญ่ในโลกปัจจุบัน มีพื้นฐานสำคัญมาจาก 2 ศาสตร์นี้เปรียบเสมือนรากแก้วของต้นไม้ใหญ่

🧬 วิทยาศาสตร์ (Science): ผู้ค้นพบความลับของธรรมชาติ

วิทยาศาสตร์ช่วยให้เรารู้ว่า “ธรรมชาติทำงานอย่างไร”

  • ฟิสิกส์: รู้เรื่องแรงโน้มถ่วง เรื่องไฟฟ้า -> นำไปสร้างเครื่องบิน, สร้างโรงไฟฟ้า
  • เคมี: รู้เรื่องปฏิกิริยาของสาร -> นำไปผลิตยารักษาโรค, พลาสติกชนิดใหม่ๆ
  • ชีววิทยา: รู้เรื่องเซลล์ พืช และสัตว์ -> นำไปปรับปรุงพันธุ์พืช (GMOs), รักษาโรคด้วยยีน

จำง่ายๆ: วิทยาศาสตร์คือ “ความรู้” (รู้ว่าทำไม) -> เทคโนโลยีคือ “การนำไปใช้” (ทำออกมาเป็นของ)

📐 คณิตศาสตร์ (Mathematics): ผู้สร้างความแม่นยำ

ถ้ามีแต่วิทยาศาสตร์ เราอาจจะรู้ว่าทำอย่างไรให้จรวดบินได้ แต่ถ้าขาดคณิตศาสตร์ จรวดอาจจะระเบิด หรือบินไปผิดทิศทาง! คณิตศาสตร์ช่วยในเรื่อง:

  • การคำนวณ: คำนวณโครงสร้างตึกไม่ให้ถล่ม, คำนวณปริมาณยาที่เหมาะสม
  • ตรรกะและอัลกอริทึม: เป็นภาษาหลักในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และ AI

สไลด์สอน เทคโนโลยีไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว

https://gamma.app/docs/3-j84b5dmi70gp51p

ไฟล์ใบงานที่ 1 นักสืบเทคโนโลยี

เรื่องที่ 2 สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

เคยสงสัยไหมว่า… ทำไมโทรศัพท์มือถือที่เราใช้ถึงเปลี่ยนรุ่นใหม่ทุกปี?

ทำไมจากที่เคยฟังเพลงด้วยเทปคาสเซ็ต ถึงกลายมาเป็นการฟังเพลงผ่านแอปสตรีมมิ่ง?

นั่นเพราะเทคโนโลยีไม่เคย “หยุดนิ่ง” มันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่… “อะไร” คือสิ่งที่ทำให้มันเปลี่ยนล่ะ?


1. เทคโนโลยีเปลี่ยนยังไง? (กระบวนการเปลี่ยนแปลง)

ส่วนใหญ่แล้ว เทคโนโลยีไม่ได้เกิดขึ้นมาแบบ “ปิ๊ง!” แล้วสมบูรณ์แบบเลย แต่มันค่อยๆ “ต่อยอด” หรือ “พัฒนา” ขึ้นมาทีละขั้น เพื่อแก้ปัญหาเดิมๆ ให้ดีขึ้น

ตัวอย่างง่ายๆ: การฟังเพลง 🎵

  1. ยุคแผ่นเสียง: ใหญ่, พกพาไม่ได้, เป็นรอยง่าย
  2. ยุคเทปคาสเซ็ต: เล็กลง! พกได้! (ด้วยซาวด์อะเบาต์) แต่… เทปยืด, เสียงไม่ชัดเท่า
  3. ยุค CD: เสียงดีมาก! แต่… พกพาลำบาก, เป็นรอยง่าย
  4. ยุค MP3: โอ้โห! พกเพลงได้เป็นพันเพลงในเครื่องเล็กๆ
  5. ยุคปัจจุบัน (Streaming): ไม่ต้องพกอะไรเลย แค่มีเน็ต ก็ฟังได้ทุกเพลงในโลก!

จะเห็นว่า ทุกขั้นคือการ “แก้ปัญหา” ของรุ่นก่อนหน้า และตอบสนอง “ความต้องการ” ของเราที่อยากได้ความสะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง


2. ⚡ 5 พลังขับเคลื่อน ที่ทำให้เทคโนโลยีเปลี่ยน!

แล้ว “สาเหตุ” หรือ “ปัจจัย” ที่คอยผลักดันให้เทคโนโลยีต้องเปลี่ยนมีอะไรบ้าง? หลักๆ มี 5 ข้อนี้

1. ความต้องการของมนุษย์ (Humans)

นี่คือเหตุผลที่ สำคัญที่สุด! เทคโนโลยีเกิดมาเพื่อรับใช้เรา

  • เรา “ขี้เกียจ” เดินไปปิดไฟ ➡️ เกิด “สวิตช์ไฟรีโมต” หรือ “ระบบสั่งงานด้วยเสียง”
  • เรา “อยากสะดวกสบาย” ➡️ เกิด “แอปสั่งอาหาร” (ไม่ต้องขับรถไปซื้อเอง)
  • เรา “อยากปลอดภัย” ➡️ เกิด “กล้องวงจรปิด”, “ระบบสแกนใบหน้า”
  • เรา “อยากสื่อสาร” กับเพื่อนเร็วๆ ➡️ เกิด “แอปแชต” “โซเชียลมีเดีย”

2. เศรษฐกิจ (Economy)

พูดง่ายๆ คือเรื่อง “เงิน” และ “การแข่งขัน”

  • การแข่งขัน: “ถ้าคู่แข่งทำได้ เราก็ต้องทำ!” เช่น ค่ายมือถือแข่งกันทำกล้องให้ชัดขึ้น, แบตอึดขึ้น เพื่อแย่งลูกค้า
  • ต้นทุน: “ทำยังไงให้ถูกลง” เมื่อเทคโนโลยีถูกลง คนทั่วไปก็เข้าถึงได้ง่ายขึ้น (เช่น คอมพิวเตอร์สมัยก่อนแพงมาก, สมัยนี้ราคาจับต้องได้)

3. สังคมและวัฒนธรรม (Society)

คือ “กระแส” หรือ “วิถีชีวิต” ของคนในตอนนั้น

  • กระแสรักสุขภาพ: คนหันมาออกกำลังกาย ➡️ เกิด “Smart Watch” เพื่อวัดการเต้นของหัวใจ, นับก้าว
  • กระแส #Saveโลก: คนรักษ์สิ่งแวดล้อม ➡️ เกิด “หลอดกระดาษ”, “ถุงผ้า”, “บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้”
  • วิถีชีวิตเปลี่ยน: เช่น ช่วงโควิด-19 คนต้อง Work From Home ➡️ “แอป Zoom” หรือ “Google Meet” ก็บูมขึ้นมาทันที

4. สิ่งแวดล้อม (Environment)

“โลกกำลังมีปัญหา” นี่คือตัวเร่งที่ทรงพลังมาก

  • ปัญหา: น้ำมันใกล้หมด, โลกร้อน, PM2.5 ➡️ เทคโนโลยีที่เกิด: “รถยนต์ไฟฟ้า (EV)”, “พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell)”
  • ปัญหา: ขยะพลาสติกล้นโลก ➡️ เทคโนโลยีที่เกิด: “การรีไซเคิล”, “พลาสติกชีวภาพ” (ที่ย่อยสลายได้)

5. ความรู้และวิทยาศาสตร์ (Knowledge)

“ยิ่งรู้… ยิ่งทำได้”

  • ของบางอย่างในอดีตทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำ แต่เพราะเรายัง “ไม่รู้วิธี” หรือ “ไม่มีเครื่องมือ”
  • พอเราค้นพบ “อินเทอร์เน็ต” ➡️ มันก็ต่อยอดมาเป็น Google, Facebook, YouTube
  • พอเราเข้าใจ “ปัญญาประดิษฐ์ (AI)” ➡️ มันก็ต่อยอดมาเป็น ChatGPT, ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ, รถยนต์ไร้คนขับ

3. สรุป: ทำไมเราต้องรู้เรื่องนี้?

การที่เราเข้าใจ “สาเหตุ” ที่ทำให้เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่การท่องจำไปสอบ แต่…

มันทำให้เรา “รู้ทันโลก” และ “มองเห็นอนาคต”

เราจะเริ่มเดาได้ว่า เทคโนโลยีต่อไปจะเป็นอย่างไร (เช่น ทุกอย่างจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น, จะเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น) และที่สำคัญที่สุด เราจะรู้ว่าต้อง “ปรับตัว” อย่างไร หรือแม้กระทั่ง… เราอาจจะเป็น “ผู้สร้าง” เทคโนโลยีใหม่ๆ นั้นขึ้นมาเองก็ได้!

สไลด์สอน ทำไมเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง

https://gamma.app/docs/3-dekb2ewmr0qxds9

ไฟล์ใบงานที่ 2 ปัจจัยทที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยี

Scroll to Top